สูตรการทำ "หมูสะเต๊ะ" เมนูอร่อย ทำทานปาร์ตี้ก็ได้ ทำขายก็ดี
อีก
หนึ่งเมนูที่เหมาะสำหรับทำทานในงานปาร์ตี้มาฝาก นั่นก็คือ "หมูสะเต๊ะ"
นะคะ ... ซึ่งส่วนผสมทุกอย่าง (ยกเว้นผัก) ไม่ว่าจะเป็นหมูเสียบไม้ อาจาด
หรือน้ำจิ้ม เพื่อน ๆ สามารถทำเตรียมไว้ก่อนวันงานได้หลายวันเลยอ่ะค่ะ
แถมตอนจะทานก็ใช้เวลาย่างหมูแต่ละไม้เพียงแป๊บเดียวหมูก็สุก
ดังนั้นย่างไปกินไปก็ยังได้เลยค่ะ
อ่านรายละเอียดแล้ว .... ดูน่าสนใจใช่ไหมคะ เพราะงั้นไปดูส่วนผสมกับวิธีทำกันเลยค่า ^_^
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง "หมูสะเต๊ะ" ::
- หมูสันนอก หั่นชิ้นบางขนาด 1*3 นิ้ว 1,000 กรัม
- กะทิอัมพวา 1 ถ้วย
- ตะไคร้ซอยบางๆ 2 ชต.
- ข่าซอยบางๆ 2 ชช.
- ยี่หร่าคั่วป่น 1 ชช.
- เม็ดผักชีคั่วป่น 1 ชต.
- ผงกะหรี่่ 1 ชต.
- ขมิ้นผง 1 ชต.
- เกลือป่น 1 ชต.
- น้ำตาลปี๊บ 2 ชต.
- พริกไทยป่น 1/2 ชช.
- รายละเอียดเกี่ยวกับการตวง
[ ช้อนตวง : เป็น
ชุดช้อนที่มีไว้ตวงเครื่องปรุงรสหรือส่วนผสมในการทำอาหารทำขนม
โดยในแต่ละชุดจะมีช้อนตวงทั้งหมด 4-6 ขนาดด้วยกันขึ้นอยู่กับการออกแบบ
แต่โดยส่วนใหญ่ที่เห็นกันโดยทั่วไปก็จะมี 4 ขนาด คือ ขนาด 1 ช้อนโตะ
(หรือย่อว่า ชต.) ขนาด 1 ช้อนชา (หรือย่อว่า ชช.) ขนาด 1/2 ช้อนชา
และขนาด 1/4 ช้อนชา โดยวัสดุที่ใช้ทำช้อนตวงนั้นมีหลากหลายประเภท เช่น
พลาสติค อลูมิเนียม แสตนเลส กระเบื้อง และก็มีหลากหลายหน้าตา
(ตามรูปด้านล่าง) ซึ่งราคาก็ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ทำ
ขึ้นกับรูปแบบการดีไซน์ ขึ้นกับยี่ห้อ และขึ้นกับสถานที่ขายอ่ะค่ะ
ช้อนตวงสามารถหาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เกตหรือ
แผนกเครื่องครัวตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป ถ้าเป็นอย่างในเมืองไทยเราตาม
BigC , Lotus , TOPS , ซุปเปอร์มาร์เกต/แผนกเครื่องครัวในเดอะมอลล์
เซ็นทรัล อะไรพวกนี้ก็มีหมดค่ะ
วิธีการใช้ช้อนตวง ... คร่าว ๆ ก็คือ
ตักของที่ต้องการตวง เช่น เกลือ พริกไทย ผงฟู ลงในช้อนตามขนาดที่ต้องการ
เช่น ขนาด 1 ชต. จากนั้นก็นำเอาสันมีดหรือสันไม้บรรทัด
(หรืออะไรที่มีลักษณะเป็นสันตรง ๆ)
ปาดส่วนเกินออกให้เหลือของที่ต้องตวงพอดีเสมอขอบช้อนตวงอ่ะค่ะ
ในกรณีทำอาหารคาวแบบไทย ๆ
เราตามสูตรครัวบ้านพิม หากไม่มีช้อนตวงแบบชุดอย่างนี้
สามารถใช้ช้อนกินข้าวแบบช้อนสั้นขนาดมาตราฐานที่เป็นแสตนเลสตวงแทนช้อนตวง
แบบ 1 ช้อนโต๊ะก็ได้ (วิธีการใช้แบบเดียวกับด้านบน) ซึ่ง 1 ชต.
จะมีปริมาณโดยคร่าวๆ เท่ากับ 3 ชช. ดังนั้นแล้วหากไม่มีชุดช้อนตวง
แต่อยากตวงแบบช้อน ๆ ก็ตวงแบบกะ ๆ เอาให้ได้ประมาณ 1 ใน 3
ของช้อนกินข้าวช้อนสั้นนะคะ ]
- ตามสูตรด้านบน ได้ประมาณ 80-100 ไม้
-
การหมักหมูสะต๊ะ สามารถใช้นมสด / นมข้นจืด / หรือกะทิก็ได้
แต่ว่าถ้าใช้กะทิ จะมีความหอมมากกว่า
และกลิ่นของกะทิเข้ากันได้ดีกับหมูสะเต๊ะค่ะ
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง "น้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ" ::
- กะทิอัมพวา 1 + 1/2 ถ้วย
- ถั่วลิสงคั่วป่น (เอาเปลือกออกด้วย) 3/4 ถ้วย
- พริกแกงคั่ว 1 ชต.
- พริกแกงมัสมั่น 1 ชต.
- น้ำตาลปี๊บ 7 ชต.
- เกลือสมุทร 3/4 ชต.
- น้ำมะขามเปียกคั้นข้นๆ 4 ชต.
- น้ำส้มสายชูแท้ 1/2 ชต.
- น้ำเปล่า 1 ถ้วย
- น้ำมันสำหรับผัด 3 ชต.
- รายละเอียดเกี่ยวกับการถ้วยตวง
ถ้วยตวงของแห้ง
เป็นถ้วยที่มีไว้ตวงเครื่องปรุงรสหรือส่วนผสมใน
การทำอาหารทำขนมเช่นเดียวกับช้อนตวงอ่ะค่ะ
โดยถ้วยตวงเนี่ยจะแบ่งเป็นถ้วยตวงของแห้ง (เช่น แป้ง น้ำตาล ข้าว พาสต้า
ถั่ว) กับถ้วยตวงของเหลว (เช่นน้ำมันพืช น้ำซุป กะทิ เนยละลาย)
นะคะ
สำหรับถ้วยตวงของแห้ง
ก็จะขายเป็นชุดเช่นเดียวกับช้อนตวง ในแต่ละชุดก็จะมี 4-6
ขนาดเช่นเดียวกับช้อนตวง แต่โดยส่วนใหญ่ที่ขายกันทั่ว ๆ ไป ก็จะเห็นมี 4
ขนาด คือ ขนาด 1 ถ้วยตวง (หรือเรียกสั้น ๆ ว่าถ้วย) ขนาด 1/2 ถ้วยตวง
ขนาด 1/3 ถ้วยตวงและก็ขนาด 1/4 ถ้วยตวงอ่ะค่ะ
ซึ่งวัสดุที่ใช้ทำถ้วยตวงนั้นก็มีความหลากหลายไม่ต่างจากช้อนตวง คือ
มีทั้งพลาสติค อลูมิเนียม แสตนเลส กระเบื้อง หรืออื่นๆ
และมีหลากหลายดีไซน์ ซึ่งราคาก็ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ ขึ้นกับการดีไซน์
ขึ้นกับยี่ห้อ ขึ้นกับสถานที่ขายไม่แตกต่างจากช้อนตวงอ่ะค่ะ
โดยถ้วยตวงสามารถหาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก
ตหรือแผนกเครื่องครัวตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป
ถ้าเป็นอย่างในเมืองไทยเราตาม BigC , Lotus , TOPS ,
ซุปเปอร์มาร์เกต/แผนกเครื่องครัวในเดอะมอลล์ เซ็นทรัล อะไรพวกนี้ก็มีหมดค่ะ
และบางที่บางยี่ห้อมักจะจัดชุดมาคู่กับช้อนตวงที่ใช้วัสดุเดียวกันเลยอ่ะ
ค่ะ
วิธีการใช้ถ้วยตวง ... คร่าว ๆ ก็คือ
ตักของที่ต้องการตวง เช่น แป้ง น้ำตาล ลงในถ้วยตามขนาดที่ต้องการ เช่น
ขนาด 1/2 ถ้วย จากนั้นก็นำเอาสันมีดหรือสันไม้บรรทัด
(หรืออะไรที่มีลักษณะเป็นสันตรง ๆ)
ปาดส่วนเกินออกให้เหลือของที่ต้องตวงพอดีเสมอขอบถ้วยตวงอ่ะค่ะ
ถ้วยตวงของเหลว
จะมีลักษณะแตกต่างจากถ้วยตวงของแห้งแบบคนละ
เรื่องกันเลยค่ะ โดยถ้วยตวงของเหลวจะมาเป็นแบบถ้วยเดียว แต่เป็นถ้วยใส
ทำจากพลาสติคบ้าง แก้วบ้าง และมีขีดบอกระดับความจุที่ด้านข้างของแก้ว
โดยปกติถ้วยตวงของเหลวที่มีขายทั่วไปก็จะมีขนาด 1 ถ้วยตวง (หรือเรียกสัน ๆ
ว่าถ้วย) ขนาด 2 ถ้วยตวง และขนาด 3 ถ้วยตวงอ่ะค่ะ
(แต่ขนาดใหญ่กว่านี้ก็มี) โดยถ้วยตวงแต่ละขนาด
ก็จะมีขีดบอกระดับความจุเริ่มต้นที่ 1/4 ถ้วย 1/3 ถ้วย 1/2 ถ้วย 3/4
ถ้วย 1 ถ้วย เป็นต้น .....
และที่อีกข้างของถ้วยก็จะมีขีดบอกระดับความจุแบบเป็น ml อ่ะค่ะ
ซึ่งโดยส่วนใหญ่ที่พิมเคยเห็นก็จะมีตั้งแต่ระดับเริ่มต้นตั้งแต่ 50 ml
100 ml อะไรประมาณนี้นะคะ
โดยวิธีใช้นั้นก็ง่ายมากค่ะ เพียงเทของเหลวลงในถ้วยให้ได้ตามระดับที่ต้องการ เช่น 1/2 ถ้วย แค่นี้ก็ใช้ได้แล้วอ่ะค่ะ
สำหรับถ้วยตวงของเหลวนั้น
หากต้องการซื้อเพื่อให้เอาเข้าเตาอบหรือเข้าไมโครเวฟได้
พิมแนะนำให้เลือกซื้อถ้วยที่ทำจาก "แก้ว" นะคะ
แต่แก้วที่ว่าก็มีทั้งแบบทนความร้อนและไม่ทนความร้อน
สำหรับแบบไม่ทนความร้อน หากเป็นขนาด 1 ถ้วยตวงที่ขายกันทั่วไปในไทย
(เกรดทั่วๆ ไป) ก็มักจะอยู่ที่ราคา 100 กลาง ๆ ถึง 200 กว่า ๆ
แต่ถ้าเป็นแบบทนความร้อนได้ก็จะมีราคา 400-500
บาทขึ้นไปในขนาดเดียวกันอ่ะค่ะ
ส่วนสถานที่ซื้อ ก็เช่นดียวกับถ้วยตวงของแห้ง
และช้อนตวงค่ะ .... นั่นคือตามซุปเปอร์มาร์เกตทั่วไป
ตามแผนกเครื่องครัวในห้าง ตาม BigC Lotus
และตามในเวบขายเครื่องครัวขายอุปกรณ์เบเกอรี่อ่ะค่ะ ^_^
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง "อาจาด" ::
- น้ำส้มสายชูแท้ 1 ถ้วย
- น้ำตาลทรายขาว 1 + 1/4 ถ้วย
- เกลือป่น 1 ชช.
- แตงกวาลูกแน่นๆ 3 ผล
- หอมแขก 2 ลูก
- พริกชี้ฟ้าเขียว เหลือง อย่างละ 1 เม็ด
- ผักชี 2 ต้น
:: วิธีทำ ::
อันดับแรกเรามาจัดการกับหมูกันก่อนนะคะ
สำหรับ
หมูเนี่ย เพื่อนๆ สามารถเลือกใช้เป็นหมูสันนอกหรือสันในก็ได้ค่ะ
เลือกตามที่ชอบเลย .... สันในจะนุ่มมาก
แต่ถ้าเป็นสันนอกจะมีความเหนียวของเนื้อให้เราได้รู้สึกตอนเคี้ยวนิดนึง
ก็อร่อยไปอีกแบบค่ะ ^_^
ถ้าใช้
สันนอก ให้เพื่อนๆ แล่เอาผังพืดที่เป็นสีขาวออกก่อนนะคะ
แล้วก็หั่นหมูเป็นก้อน ๆ ยาวสัก 3 นิ้ว
จากนั้นค่อยหั่นเป็นชิ้นบางประมาณ 1 * 3 นิ้ว ค่ะ
ได้ออกมาเป็นแบบนี้นะคะ ก็พักไว้ก่อน
หันไปโขลกตะไคร้ ข่า ลูกผักชี ยี่หร่า ผงกะหรี่ ขมิ้น พริกไทยป่น และเกลือป่นรวมกันให้ละเอียด
พอละเอียดดีก็ตักเครื่องที่โขลกไว้ใส่กาละมัง ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ และกะทิค่ะ ... คนให้น้ำตาลปี๊บละลาย
แล้วเอา
หมูที่เราหั่นไว้เมื่อกี้นี้ใส่ลงไป
คลุกเคล้าหมูกับน้ำหมักในกาละมังจนเข้ากันดี
ก็เอาแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาไว้ประมาณ 2 ชม. ค่ะ
พอครบ 2
ชม. เราก็หยิบกาละมังหมูออกมา แล้วก็เสียบด้วยไม้เสียบ
ก็จะได้หมูสะเต๊ะไม้สีเหลือง ๆ ออกมาหน้าตาประมาณในภาพด้านล่างนี้นะคะ ^_^
ก็เอาเข้าแช่ฟรีสไว้อย่างน้อย 1-2 วัน ค่ะ (ย้ำๆ 1-2 วันน๊าาาา มิใช่
1-2 ชม.)
เพิ่มเติม :: ไม้เสียบหมูสะเต๊ะที่เหมาะสมคือเบอร์ 6 ค่ะ
ระหว่างรอหมูสะต๊ะที่เราหมักไว้ได้ที่ ....... เราก็มาทำน้ำจิ้มและอาจาดกันไปพลางๆ นะคะ ^_^
สำหรับน้ำจิ้ม
... ก็ให้เราตั้งกระทะบนเตาไฟ ใช้ไฟกลางค่อนมาทางอ่อนค่ะ
ใส่น้ำมันพืชลงไป ตามด้วยพริกแกงทั้งสองอย่าง ผัดจนหอมก็ใส่หัวกะทิลงไป
1/2 ถ้วยค่ะ
ตาม
ด้วยถั่วลิสงทั้งหมด ผัดให้ถั่วลิสงละลายไปกับส่วนผสมในกระทะ
ก็ใส่น้ำเปล่า + กะทิที่เหลือ แล้วปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำส้มสายชู
น้ำตาลปี๊บ และเกลือป่น .... ชิมให้ได้รสตามชอบเลยค่ะ
ซึ่งรสชาติที่พิมปรุงกับเพื่อนๆ ปรุง อาจจะแตกต่างกัน
เพราะว่าน้ำมะขามที่เราใช้น่าจะเปรี้ยวหวานไม่เท่ากันอ่ะค่ะ
ยังไงก็ชิมให้ได้รสที่ชอบ โดยให้ออกหวานนำแต่ไม่มาก เค็มตามนิดๆ
เปรี้ยวพอกลมกล่อม และที่สำคัญอย่าให้เผ็ด ให้พอรู้สึกว่าเราใส่เครื่องแกง
แต่อย่าให้เผ็ดนำนะคะ ^_^
เพิ่ม
เติม :: น้ำจิ้มหมูสะเต๊ะสูตรของพิมจะออกเปรี้ยวหวาน
เนื่องจากที่บ้านพิมชอบแบบนี้ แต่หากใครที่ชอบแบบเค็มเปรี้ยว หรือเค็มหวาน
ก็ปรับเพิ่มลดปริมาณน้ำตาล เกลือ น้ำมะขามเปียกตามชอบนะคะ
และเมื่อได้รสที่ชอบแล้วก็ลดไฟลงเป็นไฟอ่อน แล้วก็เคี่ยวไปอีกสักแป๊บจนน้ำจิ้มของเราข้นได้ที่และแตกมันสวย ก็ปิดไฟเตาได้เลยอ่ะค่ะ
ต่อมา
เราก็จะมาทำอาจาดนะคะ .. ก็ให้เราผสมน้ำตาลทราย
น้ำส้มสายชูและเกลือป่นรวมกันในหม้อ แล้วนำหม้อไฟตั้งไฟ ใช้ไฟกลาง
พอเดือดก็หรี่ไฟลงเป็นไฟอ่อน แล้วเคี่ยวไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งส่วนผสมหนืดนิดนึงก็ปิดไฟเตา แล้วพักไว้ให้เย็นค่ะ
เพิ่ม
เติม :: หากพักจนเย็นแล้วปรากฎว่า น้ำอาจาดในหม้อของเราข้นเกิน
ให้แก้ด้วยการผสมน้ำร้อนลงไป แล้วคนให้เข้ากันจนได้ความข้นตามต้องการนะคะ
ระหว่างรอน้ำจิ้มเย็นก็มาเตรียมเครื่องอาจาดกันค่ะ (ควรหั่นเมื่อเวลาใกล้จะทาน อย่าหั่นทิ้งไว้)
หอมแขก .. ปอกเปลือก ล้าง ซับให้แห้ง ผ่าครึ่งหัวตามแนวตั้ง แล้วซอยบาง ๆ ไว้นะคะ (แต่ไม่ต้องให้บางมาก)
แตงกวา .. เลือกแตงกวาแบบอ่อน เนื้อแน่น ล้างสะอาด ผ่าครึ่งตามแนวยาวของลูก แล้วซอยไว้ให้หนาประมาณ 1/4 ซม. ค่ะ
พริกชี้ฟ้าเขียว เหลือง (จริง ๆ อยากได้พริกสีแดงด้วย แต่ลืมซื้อค่ะ - -") .. เด็ดขั้วออก แล้วซอยไว้เป็นแว่นบางนะคะ
เมื่อเตรียมเครื่องทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยและหมักหมูได้ที่แล้ว ก็ได้เวลาย่างหมูแล้วล่ะค่ะ ^__^
เพิ่มเติม :: ควรเอาหมูออกจากช่องฟรีสก่อนเวลาจะย่างประมาณ 4 ชม. เพราะหากน้อยกว่านี้ หมูอาจจะยังเป็นน้ำแข็งมากไป
ก็ให้
เราเอากะทิ 1 กล่อง (หรือ 1/2 กล่อง) ก็ได้ เทใส่จานก้นลึกหรือชามไว้นะคะ
หยิบเอาหมูที่จะย่างลงไปชุบกะทิทีละชุด (ชุดนึงก็ 4-5 ไม้
หรือมากน้อยกว่านี้ ตามที่หยิบถนัด)
เพิ่มเติม :: การเอาหมูจุ่มกะทิก่อนย่าง จะทำให้หมูมีความนุ่ม + ไม่ด้าน + หอมมากขึ้น
แล้วก็
นำขึ้นย่างบนเตา (เตาถ่านหรือเตาไฟฟ้าก็ได้ ตามสะดวก แต่เตาถ่านจะหอมกว่า)
โดยใช้ไฟกลางค่อนไปทางแรงอ่ะค่ะ ห้ามใช้ไฟอ่อนเด็ดขาดนะคะ
ไม่งั้นหมูจะแข็งเกิน กินแล้วไม่อร่อยค่ะ ^_^
ย่างเสร็จได้ออกมาเป็นแบบนี้นะคะ
ก็จัดใส่จาน เสริฟคู่กับน้ำจิ้มและอาจาด
เพิ่มเติม :: วิธีจัดอาจาดคือ ตักน้ำอาจาดใส่ถ้วยที่จะทานสัก 3 ชต. ตามด้วยแตงกวา หอมแดง พริก และผักชีเด็ดเป็นใบ ๆ ค่ะ
เท่านี้
เราก็จะได้หมูสะเต๊ะทั้งทั้งนุ่ม หอม อร่อย รสชาติเข้มข้น และสีสันสวยงาม
ที่สำคัญ ... แต่ละไม้เต็มปากเต็มคำมากเลยอ่ะค่ะ ^_^
ยังไงลองไปทำกันดูนะคะ ........ รับรองเพื่อน ๆ ไม่ผิดหวังแน่นอน แล้วพบกับพิมกับเมนูอร่อย ๆ กันในครั้งหน้านะคะ สวัสดีค่าา ^_^
****ขอบคุณสูตรจาก*** http://www.siam55.com/news17013.html |
0 comments:
Post a Comment