Thursday, February 19, 2015

สูตรการทำ "หมูสะเต๊ะ" เมนูอร่อย ทำทานปาร์ตี้ก็ได้ ทำขายก็ดี

Posted by Unknown



  สูตรการทำ "หมูสะเต๊ะ" เมนูอร่อย ทำทานปาร์ตี้ก็ได้ ทำขายก็ดี
อีก หนึ่งเมนูที่เหมาะสำหรับทำทานในงานปาร์ตี้มาฝาก   นั่นก็คือ  "หมูสะเต๊ะ" นะคะ ... ซึ่งส่วนผสมทุกอย่าง (ยกเว้นผัก)  ไม่ว่าจะเป็นหมูเสียบไม้ อาจาด หรือน้ำจิ้ม  เพื่อน ๆ สามารถทำเตรียมไว้ก่อนวันงานได้หลายวันเลยอ่ะค่ะ  แถมตอนจะทานก็ใช้เวลาย่างหมูแต่ละไม้เพียงแป๊บเดียวหมูก็สุก  ดังนั้นย่างไปกินไปก็ยังได้เลยค่ะ 


อ่านรายละเอียดแล้ว .... ดูน่าสนใจใช่ไหมคะ  เพราะงั้นไปดูส่วนผสมกับวิธีทำกันเลยค่า ^_^



:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง "หมูสะเต๊ะ" ::


- หมูสันนอก หั่นชิ้นบางขนาด 1*3 นิ้ว  1,000 กรัม
- กะทิอัมพวา 1 ถ้วย
- ตะไคร้ซอยบางๆ 2 ชต.
- ข่าซอยบางๆ 2 ชช.
- ยี่หร่าคั่วป่น 1 ชช.
- เม็ดผักชีคั่วป่น 1 ชต.
- ผงกะหรี่่ 1 ชต.
- ขมิ้นผง 1 ชต.
- เกลือป่น 1 ชต.
- น้ำตาลปี๊บ 2 ชต.
- พริกไทยป่น 1/2 ชช. 


- รายละเอียดเกี่ยวกับการตวง  



ช้อนตวง  : เป็น ชุดช้อนที่มีไว้ตวงเครื่องปรุงรสหรือส่วนผสมในการทำอาหารทำขนม   โดยในแต่ละชุดจะมีช้อนตวงทั้งหมด  4-6 ขนาดด้วยกันขึ้นอยู่กับการออกแบบ  แต่โดยส่วนใหญ่ที่เห็นกันโดยทั่วไปก็จะมี 4 ขนาด  คือ ขนาด 1 ช้อนโตะ (หรือย่อว่า ชต.)  ขนาด 1 ช้อนชา (หรือย่อว่า ชช.)  ขนาด 1/2 ช้อนชา  และขนาด 1/4 ช้อนชา  โดยวัสดุที่ใช้ทำช้อนตวงนั้นมีหลากหลายประเภท เช่น พลาสติค  อลูมิเนียม  แสตนเลส กระเบื้อง  และก็มีหลากหลายหน้าตา  (ตามรูปด้านล่าง)  ซึ่งราคาก็ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ทำ ขึ้นกับรูปแบบการดีไซน์ ขึ้นกับยี่ห้อ และขึ้นกับสถานที่ขายอ่ะค่ะ

ช้อนตวงสามารถหาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เกตหรือ แผนกเครื่องครัวตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป  ถ้าเป็นอย่างในเมืองไทยเราตาม BigC , Lotus , TOPS , ซุปเปอร์มาร์เกต/แผนกเครื่องครัวในเดอะมอลล์ เซ็นทรัล อะไรพวกนี้ก็มีหมดค่ะ 

วิธีการใช้ช้อนตวง ... คร่าว ๆ ก็คือ  ตักของที่ต้องการตวง เช่น เกลือ  พริกไทย  ผงฟู ลงในช้อนตามขนาดที่ต้องการ  เช่น ขนาด 1 ชต.  จากนั้นก็นำเอาสันมีดหรือสันไม้บรรทัด (หรืออะไรที่มีลักษณะเป็นสันตรง ๆ)  ปาดส่วนเกินออกให้เหลือของที่ต้องตวงพอดีเสมอขอบช้อนตวงอ่ะค่ะ 

ในกรณีทำอาหารคาวแบบไทย ๆ เราตามสูตรครัวบ้านพิม   หากไม่มีช้อนตวงแบบชุดอย่างนี้ สามารถใช้ช้อนกินข้าวแบบช้อนสั้นขนาดมาตราฐานที่เป็นแสตนเลสตวงแทนช้อนตวง แบบ 1 ช้อนโต๊ะก็ได้  (วิธีการใช้แบบเดียวกับด้านบน)   ซึ่ง 1 ชต. จะมีปริมาณโดยคร่าวๆ เท่ากับ 3 ชช.  ดังนั้นแล้วหากไม่มีชุดช้อนตวง แต่อยากตวงแบบช้อน ๆ ก็ตวงแบบกะ ๆ เอาให้ได้ประมาณ 1 ใน 3 ของช้อนกินข้าวช้อนสั้นนะคะ ]

- ตามสูตรด้านบน  ได้ประมาณ 80-100 ไม้
- การหมักหมูสะต๊ะ  สามารถใช้นมสด / นมข้นจืด / หรือกะทิก็ได้   แต่ว่าถ้าใช้กะทิ จะมีความหอมมากกว่า และกลิ่นของกะทิเข้ากันได้ดีกับหมูสะเต๊ะค่ะ 


:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง "น้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ" ::


- กะทิอัมพวา 1 + 1/2 ถ้วย
- ถั่วลิสงคั่วป่น  (เอาเปลือกออกด้วย) 3/4 ถ้วย
- พริกแกงคั่ว 1 ชต.
- พริกแกงมัสมั่น 1 ชต.
- น้ำตาลปี๊บ 7 ชต.
- เกลือสมุทร 3/4 ชต.
- น้ำมะขามเปียกคั้นข้นๆ 4 ชต.
- น้ำส้มสายชูแท้ 1/2 ชต.
- น้ำเปล่า 1 ถ้วย
- น้ำมันสำหรับผัด 3 ชต.

- รายละเอียดเกี่ยวกับการถ้วยตวง



ถ้วยตวงของแห้ง


เป็นถ้วยที่มีไว้ตวงเครื่องปรุงรสหรือส่วนผสมใน การทำอาหารทำขนมเช่นเดียวกับช้อนตวงอ่ะค่ะ  โดยถ้วยตวงเนี่ยจะแบ่งเป็นถ้วยตวงของแห้ง (เช่น แป้ง น้ำตาล ข้าว พาสต้า  ถั่ว)  กับถ้วยตวงของเหลว  (เช่นน้ำมันพืช  น้ำซุป  กะทิ  เนยละลาย)   นะคะ

สำหรับถ้วยตวงของแห้ง  ก็จะขายเป็นชุดเช่นเดียวกับช้อนตวง   ในแต่ละชุดก็จะมี 4-6 ขนาดเช่นเดียวกับช้อนตวง  แต่โดยส่วนใหญ่ที่ขายกันทั่ว ๆ ไป ก็จะเห็นมี 4 ขนาด คือ ขนาด 1 ถ้วยตวง (หรือเรียกสั้น ๆ ว่าถ้วย)  ขนาด  1/2 ถ้วยตวง  ขนาด 1/3  ถ้วยตวงและก็ขนาด 1/4 ถ้วยตวงอ่ะค่ะ   ซึ่งวัสดุที่ใช้ทำถ้วยตวงนั้นก็มีความหลากหลายไม่ต่างจากช้อนตวง คือ มีทั้งพลาสติค อลูมิเนียม แสตนเลส  กระเบื้อง หรืออื่นๆ   และมีหลากหลายดีไซน์  ซึ่งราคาก็ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ ขึ้นกับการดีไซน์ ขึ้นกับยี่ห้อ ขึ้นกับสถานที่ขายไม่แตกต่างจากช้อนตวงอ่ะค่ะ

โดยถ้วยตวงสามารถหาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก ตหรือแผนกเครื่องครัวตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป  ถ้าเป็นอย่างในเมืองไทยเราตาม BigC , Lotus , TOPS , ซุปเปอร์มาร์เกต/แผนกเครื่องครัวในเดอะมอลล์ เซ็นทรัล อะไรพวกนี้ก็มีหมดค่ะ   และบางที่บางยี่ห้อมักจะจัดชุดมาคู่กับช้อนตวงที่ใช้วัสดุเดียวกันเลยอ่ะ ค่ะ 

วิธีการใช้ถ้วยตวง ... คร่าว ๆ ก็คือ  ตักของที่ต้องการตวง เช่น แป้ง น้ำตาล  ลงในถ้วยตามขนาดที่ต้องการ  เช่น ขนาด 1/2 ถ้วย  จากนั้นก็นำเอาสันมีดหรือสันไม้บรรทัด (หรืออะไรที่มีลักษณะเป็นสันตรง ๆ)  ปาดส่วนเกินออกให้เหลือของที่ต้องตวงพอดีเสมอขอบถ้วยตวงอ่ะค่ะ  


ถ้วยตวงของเหลว


จะมีลักษณะแตกต่างจากถ้วยตวงของแห้งแบบคนละ เรื่องกันเลยค่ะ  โดยถ้วยตวงของเหลวจะมาเป็นแบบถ้วยเดียว  แต่เป็นถ้วยใส ทำจากพลาสติคบ้าง แก้วบ้าง  และมีขีดบอกระดับความจุที่ด้านข้างของแก้ว   โดยปกติถ้วยตวงของเหลวที่มีขายทั่วไปก็จะมีขนาด 1 ถ้วยตวง (หรือเรียกสัน ๆ ว่าถ้วย)  ขนาด  2 ถ้วยตวง และขนาด 3 ถ้วยตวงอ่ะค่ะ  (แต่ขนาดใหญ่กว่านี้ก็มี)   โดยถ้วยตวงแต่ละขนาด ก็จะมีขีดบอกระดับความจุเริ่มต้นที่ 1/4 ถ้วย   1/3  ถ้วย   1/2  ถ้วย  3/4 ถ้วย  1 ถ้วย เป็นต้น ..... และที่อีกข้างของถ้วยก็จะมีขีดบอกระดับความจุแบบเป็น ml อ่ะค่ะ   ซึ่งโดยส่วนใหญ่ที่พิมเคยเห็นก็จะมีตั้งแต่ระดับเริ่มต้นตั้งแต่ 50 ml   100 ml   อะไรประมาณนี้นะคะ

โดยวิธีใช้นั้นก็ง่ายมากค่ะ เพียงเทของเหลวลงในถ้วยให้ได้ตามระดับที่ต้องการ เช่น 1/2 ถ้วย แค่นี้ก็ใช้ได้แล้วอ่ะค่ะ   

สำหรับถ้วยตวงของเหลวนั้น หากต้องการซื้อเพื่อให้เอาเข้าเตาอบหรือเข้าไมโครเวฟได้ พิมแนะนำให้เลือกซื้อถ้วยที่ทำจาก "แก้ว" นะคะ  แต่แก้วที่ว่าก็มีทั้งแบบทนความร้อนและไม่ทนความร้อน  สำหรับแบบไม่ทนความร้อน  หากเป็นขนาด 1 ถ้วยตวงที่ขายกันทั่วไปในไทย (เกรดทั่วๆ  ไป)   ก็มักจะอยู่ที่ราคา 100 กลาง ๆ ถึง 200 กว่า ๆ   แต่ถ้าเป็นแบบทนความร้อนได้ก็จะมีราคา 400-500 บาทขึ้นไปในขนาดเดียวกันอ่ะค่ะ 

ส่วนสถานที่ซื้อ ก็เช่นดียวกับถ้วยตวงของแห้ง และช้อนตวงค่ะ .... นั่นคือตามซุปเปอร์มาร์เกตทั่วไป  ตามแผนกเครื่องครัวในห้าง  ตาม BigC Lotus  และตามในเวบขายเครื่องครัวขายอุปกรณ์เบเกอรี่อ่ะค่ะ ^_^ 

:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง "อาจาด" ::

- น้ำส้มสายชูแท้ 1 ถ้วย
- น้ำตาลทรายขาว 1 + 1/4  ถ้วย
- เกลือป่น 1 ชช.
- แตงกวาลูกแน่นๆ  3 ผล
- หอมแขก 2 ลูก
- พริกชี้ฟ้าเขียว เหลือง อย่างละ 1 เม็ด
- ผักชี 2 ต้น


:: วิธีทำ ::

อันดับแรกเรามาจัดการกับหมูกันก่อนนะคะ 

สำหรับ หมูเนี่ย เพื่อนๆ สามารถเลือกใช้เป็นหมูสันนอกหรือสันในก็ได้ค่ะ เลือกตามที่ชอบเลย  .... สันในจะนุ่มมาก แต่ถ้าเป็นสันนอกจะมีความเหนียวของเนื้อให้เราได้รู้สึกตอนเคี้ยวนิดนึง ก็อร่อยไปอีกแบบค่ะ ^_^ 

ถ้าใช้ สันนอก ให้เพื่อนๆ แล่เอาผังพืดที่เป็นสีขาวออกก่อนนะคะ  แล้วก็หั่นหมูเป็นก้อน ๆ  ยาวสัก 3 นิ้ว  จากนั้นค่อยหั่นเป็นชิ้นบางประมาณ 1 * 3 นิ้ว ค่ะ

ได้ออกมาเป็นแบบนี้นะคะ ก็พักไว้ก่อน


หันไปโขลกตะไคร้ ข่า ลูกผักชี ยี่หร่า ผงกะหรี่ ขมิ้น พริกไทยป่น และเกลือป่นรวมกันให้ละเอียด 



พอละเอียดดีก็ตักเครื่องที่โขลกไว้ใส่กาละมัง  ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ  และกะทิค่ะ  ... คนให้น้ำตาลปี๊บละลาย


แล้วเอา หมูที่เราหั่นไว้เมื่อกี้นี้ใส่ลงไป  คลุกเคล้าหมูกับน้ำหมักในกาละมังจนเข้ากันดี  ก็เอาแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาไว้ประมาณ 2 ชม. ค่ะ  


พอครบ 2 ชม. เราก็หยิบกาละมังหมูออกมา  แล้วก็เสียบด้วยไม้เสียบ    ก็จะได้หมูสะเต๊ะไม้สีเหลือง ๆ ออกมาหน้าตาประมาณในภาพด้านล่างนี้นะคะ ^_^   ก็เอาเข้าแช่ฟรีสไว้อย่างน้อย 1-2 วัน ค่ะ  (ย้ำๆ   1-2 วันน๊าาาา มิใช่ 1-2 ชม.)   

เพิ่มเติม :: ไม้เสียบหมูสะเต๊ะที่เหมาะสมคือเบอร์ 6 ค่ะ 


ระหว่างรอหมูสะต๊ะที่เราหมักไว้ได้ที่ ....... เราก็มาทำน้ำจิ้มและอาจาดกันไปพลางๆ  นะคะ  ^_^

สำหรับน้ำจิ้ม ... ก็ให้เราตั้งกระทะบนเตาไฟ ใช้ไฟกลางค่อนมาทางอ่อนค่ะ  ใส่น้ำมันพืชลงไป  ตามด้วยพริกแกงทั้งสองอย่าง  ผัดจนหอมก็ใส่หัวกะทิลงไป 1/2 ถ้วยค่ะ 



ตาม ด้วยถั่วลิสงทั้งหมด   ผัดให้ถั่วลิสงละลายไปกับส่วนผสมในกระทะ  ก็ใส่น้ำเปล่า + กะทิที่เหลือ  แล้วปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำส้มสายชู น้ำตาลปี๊บ และเกลือป่น   .... ชิมให้ได้รสตามชอบเลยค่ะ  ซึ่งรสชาติที่พิมปรุงกับเพื่อนๆ ปรุง อาจจะแตกต่างกัน เพราะว่าน้ำมะขามที่เราใช้น่าจะเปรี้ยวหวานไม่เท่ากันอ่ะค่ะ  ยังไงก็ชิมให้ได้รสที่ชอบ โดยให้ออกหวานนำแต่ไม่มาก  เค็มตามนิดๆ  เปรี้ยวพอกลมกล่อม และที่สำคัญอย่าให้เผ็ด ให้พอรู้สึกว่าเราใส่เครื่องแกง  แต่อย่าให้เผ็ดนำนะคะ ^_^ 

เพิ่ม เติม :: น้ำจิ้มหมูสะเต๊ะสูตรของพิมจะออกเปรี้ยวหวาน เนื่องจากที่บ้านพิมชอบแบบนี้  แต่หากใครที่ชอบแบบเค็มเปรี้ยว หรือเค็มหวาน ก็ปรับเพิ่มลดปริมาณน้ำตาล เกลือ น้ำมะขามเปียกตามชอบนะคะ


และเมื่อได้รสที่ชอบแล้วก็ลดไฟลงเป็นไฟอ่อน แล้วก็เคี่ยวไปอีกสักแป๊บจนน้ำจิ้มของเราข้นได้ที่และแตกมันสวย ก็ปิดไฟเตาได้เลยอ่ะค่ะ  


ต่อมา เราก็จะมาทำอาจาดนะคะ  .. ก็ให้เราผสมน้ำตาลทราย น้ำส้มสายชูและเกลือป่นรวมกันในหม้อ  แล้วนำหม้อไฟตั้งไฟ ใช้ไฟกลาง พอเดือดก็หรี่ไฟลงเป็นไฟอ่อน แล้วเคี่ยวไปเรื่อยๆ  จนกระทั่งส่วนผสมหนืดนิดนึงก็ปิดไฟเตา แล้วพักไว้ให้เย็นค่ะ 

เพิ่ม เติม ::  หากพักจนเย็นแล้วปรากฎว่า น้ำอาจาดในหม้อของเราข้นเกิน  ให้แก้ด้วยการผสมน้ำร้อนลงไป แล้วคนให้เข้ากันจนได้ความข้นตามต้องการนะคะ 


ระหว่างรอน้ำจิ้มเย็นก็มาเตรียมเครื่องอาจาดกันค่ะ   (ควรหั่นเมื่อเวลาใกล้จะทาน อย่าหั่นทิ้งไว้) 

หอมแขก .. ปอกเปลือก ล้าง ซับให้แห้ง  ผ่าครึ่งหัวตามแนวตั้ง แล้วซอยบาง ๆ ไว้นะคะ (แต่ไม่ต้องให้บางมาก)

แตงกวา .. เลือกแตงกวาแบบอ่อน เนื้อแน่น ล้างสะอาด ผ่าครึ่งตามแนวยาวของลูก แล้วซอยไว้ให้หนาประมาณ  1/4 ซม. ค่ะ

พริกชี้ฟ้าเขียว เหลือง  (จริง ๆ อยากได้พริกสีแดงด้วย แต่ลืมซื้อค่ะ - -") .. เด็ดขั้วออก แล้วซอยไว้เป็นแว่นบางนะคะ 


เมื่อเตรียมเครื่องทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยและหมักหมูได้ที่แล้ว  ก็ได้เวลาย่างหมูแล้วล่ะค่ะ    ^__^

เพิ่มเติม ::  ควรเอาหมูออกจากช่องฟรีสก่อนเวลาจะย่างประมาณ 4 ชม.  เพราะหากน้อยกว่านี้ หมูอาจจะยังเป็นน้ำแข็งมากไป 

ก็ให้ เราเอากะทิ 1 กล่อง (หรือ 1/2 กล่อง) ก็ได้  เทใส่จานก้นลึกหรือชามไว้นะคะ   หยิบเอาหมูที่จะย่างลงไปชุบกะทิทีละชุด  (ชุดนึงก็ 4-5 ไม้ หรือมากน้อยกว่านี้ ตามที่หยิบถนัด)  

เพิ่มเติม ::  การเอาหมูจุ่มกะทิก่อนย่าง จะทำให้หมูมีความนุ่ม + ไม่ด้าน + หอมมากขึ้น


แล้วก็ นำขึ้นย่างบนเตา  (เตาถ่านหรือเตาไฟฟ้าก็ได้ ตามสะดวก แต่เตาถ่านจะหอมกว่า) โดยใช้ไฟกลางค่อนไปทางแรงอ่ะค่ะ  ห้ามใช้ไฟอ่อนเด็ดขาดนะคะ ไม่งั้นหมูจะแข็งเกิน กินแล้วไม่อร่อยค่ะ ^_^ 


 ย่างเสร็จได้ออกมาเป็นแบบนี้นะคะ 


ก็จัดใส่จาน เสริฟคู่กับน้ำจิ้มและอาจาด  

เพิ่มเติม ::  วิธีจัดอาจาดคือ ตักน้ำอาจาดใส่ถ้วยที่จะทานสัก 3 ชต. ตามด้วยแตงกวา หอมแดง พริก และผักชีเด็ดเป็นใบ ๆ ค่ะ


เท่านี้ เราก็จะได้หมูสะเต๊ะทั้งทั้งนุ่ม หอม  อร่อย  รสชาติเข้มข้น และสีสันสวยงาม  ที่สำคัญ ... แต่ละไม้เต็มปากเต็มคำมากเลยอ่ะค่ะ ^_^ 


ยังไงลองไปทำกันดูนะคะ ........ รับรองเพื่อน ๆ ไม่ผิดหวังแน่นอน  แล้วพบกับพิมกับเมนูอร่อย ๆ กันในครั้งหน้านะคะ สวัสดีค่าา ^_^
****ขอบคุณสูตรจาก***
http://www.siam55.com/news17013.html

0 comments:

Post a Comment