Thursday, November 19, 2015

แกงเขียวหวานไก่

Posted by Unknown

แกงเขียวหวานไก่

แกง เขียวหวานไก่ หนึ่งในบรรดาแกงไทย ที่เผ็ดที่สุด แต่ก็เป็นแกงชาวต่างชาติ โปรดปรานมากที่สุดเหมือนกัน แกงเขียวหวานไก่สูตรนี้ สัดส่วนน้ำพริกแกง ปรับเพิ่มลดได้เล็กน้อยตามระดับความเผ็ดที่ชอบ





เครื่องปรุงและส่วนผสม แกงเขียวหวานไก่

1. หัวกะทิ 1 ถ้วย
2. น้ำพริกแกงเขียวหวาน 50 กรัม
3. เนื้อไก่ 250 กรัม
4. หางกะทิหรือน้ำสะอาด 1 ถ้วย
5. มะเขือเปราะ 5 ผล
6. มะเขือพวง 1/4 ถ้วยตวง
7. ใบมะกรูด 4-5 ใบ
8. พริกชี้ฟ้าสีแดง 1/4 ถ้วยตวง
9. ใบโหระพา 1/4 ถ้วยตวง
10 น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
11. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีการทำ แกงเขียวหวานไก่


1. เนื้อ ไก่ลอกเอาหนังออกหั่นเป็นชิ้นพอคำ (ถ้าอยากได้แกงไก่เนื้อนุ่มแนะนำให้ใช้เนื้อสะโพกไก่), มะเขือเปราะตัดจุก ผ่าเป็นชิ้นขนาดพอคำ ผลนึงแบ่งได้ 2 หรือ 4 ชิ้นขึ้นอยู่กับขนาด แช่ไว้ในน้ำเกลือ ส่วนผสมน้ำ 1 ลิตรต่อเกลือประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ เพื่อกันไม่ให้มะเขือเปราะดำ เวลาใช้เทน้ำเกลือทิ้งไป ล้างเอาแต่มะเขือไปใช้นะคะ, มะเขือพวง เด็ดเป็นเม็ดล้างน้ำให้สะอาด, ใบมะกรูดฉีกเอาแต่ใบไม่เอาก้าน, พริกชี้ฟ้าแดงหั่นแฉลบ ถ้าชอบเผ็ดๆ ก็หั่นติดแกนเอาเมล็ดพริกลงไปด้วย ถ้าไม่ชอบเผ็ด ก็หั่นอย่าให้ติดเมล็ดพริกนะคะ, โหระพาเด็ดเอาแต่ใบ ล้างน้ำให้สะอาด

2. ตั้งกระทะบน เตา ใส่หัวกะทิลงเคี่ยวให้แตกมัน (แบ่งหัวกะทิใส่ถ้วยไว้สัก 3-4ช้อนโต๊ะ ไว้ใส่ตอนท้าย) จากนั้นใส่น้ำพริกแกงเขียวหวาน ลงไปผัดไฟกลางๆ จนมีกลิ่นหอม (ระวังไหม้นะคะ ถ้าดูจะแห้งเกินไป ตักหางกะทิใส่ลงไปเลี้ยงไม่ให้แห้งเกินไปค่ะ)


3. ระหว่างที่ ผัดน้ำพริกแกงเขียวหวาน กับหัวกะทิอยู่ นำหางกะทิใส่หม้อ ตั้งไฟอ่อนๆ รอไว้ ให้ร้อน (หมั่นน) ระวังอย่าให้น้ำหางกะทิเดือดนะคะ ร้อนแต่ไม่เดือดค่ะ

4. พอผัดน้ำพริก แกงหอมได้ที่แล้ว (สังเกตุได้จากอาการจาม กระแอม ของคนทำและผู้อยู่ใกล้เคียง) ใส่เนื้อไก่ลงไปเคล้ากับส่วนผสมของกะทิกับน้ำพริกแกงที่ผัดเตรียมไว้ ปรุงรสด้วยน้ำปลา เมื่อไก่เริ่มสุกตักส่วนผสมทั้งหมด ใส่ลงในหม้อหางกะทิ ที่ตั้งไฟรอไว้ คนให้เข้ากัน พอแกงเริ่มเดือด ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ ชิมรสและปรุงเพิ่มตามชอบ เน้นให้รสจัดไว้ก่อนนิดนึง เพราะพอใส่ผักลงไปแล้วรสจะอ่อนลง

5. เร่งไฟให้แกง เดือด ใส่ใบมะกรูด มะเขือพวง มะเขือเปราะ คนแกงให้มะเขือทั้งสองผสมจมลงในน้ำแกง ใส่พริกชี้ฟ้า ใบโหระพา ปิดฝาหม้อให้แกงเดือดอีกครั้ง (ขั้นตอนนี้ต้องเร็วนะคะ เพราะมะเขือเปราะถ้าโดนอากาศ มันจะดำไม่น่าทานค่ะ) จากนั้นปิดไฟที่เตา ใส่หัวกะทิที่แบ่งไว้ในตอนแรก เป็นอันเสร็จพิธี

0 comments:

Post a Comment